เครือข่ายกองทุนหมู่บ้าน ตำบลพิมาน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล


ประวัติ ตำบลพิมาน
บ้านพิมาน ตำบลพิมาน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล ถูกยกฐานะขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาเป็น “ เทศบาลเมืองสตูล” เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2479 มีพื้นที่รับผิดชอบ 1.196 ตารางกิโลเมตร และต่อมา เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2513 ได้มีพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาลเมืองสตูลเพื่อให้เหมาะสมกับการบริหารกิจการและการบำรุงท้องถิ่น โดยโอนท้องที่หมู่ที่ 1, 2 และ 3 ตำบลคลองขุด อำเภอเมืองบางส่วนเข้ามารวมเป็นเขตเทศบาล รวมเนื้อที่ 6.8 ตารางกิโลเมตร

ลักษณะที่ตั้ง
เทศบาลเมืองสตูล ตั้งอยู่ภาคใต้ตอนล่าง ด้านทิศตะวันตก ติดกับชายฝั่งทะเลอันดามัน มีพื้นที่ปกครองทั้งหมด 6.8 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ในตำบลพิมาน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูลอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ 973 กิโลเมตร เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ติดต่อกับประเทศมาเลเซีย

อาณาเขต
เทศบาลเมืองสตูล มีอาณาเขตติดต่อดังนี้
ทิศเหนือ : ติดต่อกับองค์การบริหารส่วนตำบลคลองขุด
ทิศใต้ : ติดต่อกับองค์การบริหารส่วนตำบลคลองขุด
ทิศตะวันออก : ติดต่อกับองค์การบริหารส่วนตำบลคลองขุด
ทิศตะวันตก : ติดต่อกับองค์การบริหารส่วนตำบลควนขัน ลักษณะ

ภูมิประเทศ
เทศบาลเมืองสตูล มีลักษณะพื้นที่เป็นที่ราบสูงกลางเมือง แล้วลาดต่ำลงสู่ชายฝั่งทะเล อันดามัน ทำให้เกิดลำคลองเป็นจำนวนมาก เทศบาลเมืองสตูลล้อมรอบด้วยลำคลอง 3 สาย คือ คลองมำบัง คลองเส็นเต็น และคลองตายาย มีภูเขาอยู่ในเขตเทศบาล 2 ลูก คือ เขาโต๊ะหยงกง และเขาโต๊ะพญาวัง

ลักษณะภูมิอากาศ
ลักษณะภูมิอากาศในพื้นที่ ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดผ่าน อ่าวไทย และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จากมหาสมุทรอินเดีย ลักษณะภูมิอากาศ เป็นแบบร้อนชื้น มี 2 ฤดู คือ ฤดูร้อน และฤดูฝน โดยมีช่วงฤดูฝน ยาวนาน 8 เดือน ระหว่างเดือน พฤษภาคม – ธันวาคม และมีช่วงฤดูร้อนเพียง 4 เดือน คือ เดือนมกราคม – เดือนเมษายน ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย ประมาณ 2,388.99 มม. อุณหภูมิเฉลี่ย อยู่ในช่วง 27.6- 28.4 องศาเซลเซียส

กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง
ตำบลพิมานมีกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง 9 แห่ง ดังนี้
- กองทุนฯ ชุมชนโคกพยอม (นิติบุคคล)
- กองทุนฯ ชุมชนบ้านหัวทาง (นิติบุคคล)
- กองทุนฯ ชุมชนคลองเส็นเต็น
- กองทุนฯ ชุมชนท่าไม้ไผ่
- กองทุนฯ ชุมชนศาลากันตง
- กองทุนฯ ชุมชนซอยปลาเค็ม (นิติบุคคล)
- กองทุนฯ ชุมชนวัดชนาธิปเฉลิม
- กองทุนฯ ชุมชนทุงเฉลิมสุข ฝั่งตะวันตก
- กองทุนฯ ชุมชนทุงเฉลิมสุข ฝั่งตะวันออก (นิติบุคคล)

อ่านต่อ...

สตูล สงบ สะอาด ธรรมชาติบริสุทธิ์


สตูล แม้เป็นเพียงจังหวัดชายแดนเล็ก ๆ บริเวณชายฝั่งทะเลอันดามันทางภาคใต้ของประเทศไทย แต่มีเกาะแก่งที่งดงามเป็นที่กล่าวขาน ทั้งยังอุดมด้วยธรรมชาติป่าเขาที่สมบูรณ์ ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวไทยมุสลิม

สตูลอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 973 กิโลเมตร มีพื้นที่ 2,478 ตารางกิโลเมตร มีชายฝั่งทะเลยาว 80 กิโลเมตร สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นเนินสูง มีที่ราบป่าเขา ห้วยลำธารในเขตภาคตะวันออกของจังหวัด ตอนกลางใกล้ชายทะเลเป็นที่ราบ มีภูเขาและที่ราบลุ่ม ส่วนชายฝั่งทะเลเป็นที่ราบและป่าชายเลนน้ำท่วมถึง มีป่าโกงกางและไม้แสมมาก นอกจากนี้ในเขตจังหวัดสตูลยังมีหมู่เกาะต่างๆ อีกกว่าร้อยเกาะ ที่รู้จักกันดีได้แก่ หมู่เกาะตะรุเตา เกาะอาดัง-ราวี และหมู่เกาะเภตรา


สตูล แบ่งออกเป็น 7 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอควนโดน อำเภอท่าแพ อำเภอควนกาหลง อำเภอละงู อำเภอทุ่งหว้า และอำเภอมะนัง

อ่านต่อ...

รู้จักกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง



ความเป็นมา
"กองทุนหมู่บ้าน" ไม่ใช่เงิน !"กองทุนหมู่บ้าน" เป็นอะไรที่ใหญ่โต และมีคุณค่ายิ่งกว่าเงินมากนัก
กองทุนนี้ประกอบด้วย ทุนที่เป็นคนแต่ละคน ทุนทางสังคมที่ถักทอคนแต่ละคนมาเป็นกลุ่มคนหรือสังคม ทุนทางวัฒนธรรม คือวิถีชีวิตร่วมกันของกลุ่มคนที่บรรสานสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อม ทุนทางศีลธรรม หมายถึงความถูกต้องแห่งการอยู่ร่วมกัน เช่น ความเอื้ออาทรต่อกัน ความเชื่อถือและไว้วางใจกันได้ ความสุจริต ความเสียสละ ทุนทางทรัพยากร เช่น ดิน น้ำ ป่า อากาศ ไร่นา วัวควาย ที่มีการอนุรักษ์ มีการใช้อย่างเป็นธรรมและยั่งยืน ทุนทางปัญญา ได้แก่การเรียนรู้ร่วมกันในการปฏิบัติและนำเอาความรู้ที่มีอยู่ในชุมชน และความรู้จากภายนอกชุมชน มาสังเคราะห์เป็นปัญญาและการจัดการเพื่อให้การอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับคน คนกับธรรมชาติ และระหว่างชุมชนกับโลกภายนอกชุมชน เป็นไปอย่างรักษาความสมดุลไว้ได้ เพื่อความเป็นปรกติและยั่งยืน ทุนที่เป็นเงิน อันช่วยกันออมไว้เพื่อให้กระบวนการออมและการจัดการรวมทั้งตัวเงิน เป็นเครื่องกระตุ้นและส่งเสริมสร้างทุนที่ไม่ใช่เงิน
ทุนที่ไม่ใช่เงิน คือ คน สังคม วัฒนธรรม ศีลธรรม ทรัพยากร และ ปัญญา ถูกถักทอเข้าด้วยกัน "คุณค่าที่ไม่ใช่เงิน" (nonmonetary values) คือความใกล้ชิด ความเอื้ออาทรต่อกัน ความไว้เนื้อเชื่อใจ ความสุจริต ความเสียสละ คุณค่าที่ไม่ใช่เงินนี้มีพลังผูกพันเข้าไว้ด้วยกัน คุณค่านี้อาจเรียกว่าเป็น "ธรรมะแห่งการถักทอ"

ชุมชนจะก่อตัวขึ้นมาเองด้วย "ธรรมะแห่งการถักทอ" งอกงามและเติบโตไปโดยธรรมชาติ เป็นองค์กรโดยธรรม องค์กรโดยธรรมทำให้ทุกคนมีความสุขและสร้างสรรค์อย่างยิ่ง ตรงกันข้ามกับองค์กรโดยอำนาจที่ใช้กันโดยทั่วไปไม่ว่าในทางการเมือง ราชการ การศึกษา ศาสนา หรือธุรกิจ ซึ่งบีบคั้น ไม่สร้างสรรค์ และก่อให้เกิดความเครียด

อำนาจและเงินที่เข้าทำลาย "คุณค่าที่ไม่ใช่เงิน" และทำลายความเข้มแข็งของชุมชน หรือทำให้ความเป็นชุมชนไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าเข้าใจใช้เงินให้ไปหนุนคุณค่าที่ไม่ใช่เงินเงินก็มีประโยชน์ในการส่งเสริมความเข้มแข็ง ของชุมชนได้
ผู้ที่เข้าไปทำงานชุมชนจะมีแต่เจตนาดีอย่างเดียวไม่ได้ทั่วโลกประสบความล้มเหลวในการแก้ไขความยากจนของคนชนบทเพราะอาศัยแต่เจตนาดีและเงินมหาศาลความเข้าใจธรรมชาติของการก่อตัวเองของชุมชนเข้มแข็งเป็นสิ่งสำคัญถ้าช่วยกันทำความเข้าใจก็จะเกิดอานิสงฆ์
มหาศาล ที่ทำให้ประเทศชาติรอดพ้นจากสภาวะวิกฤต
- ประเวศ วะสี 24 มิถุนายน 2544 -

ปรัชญา
ปรัชญาของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ๑) เสริมสร้างสำนึกความเป็นชุมชนและท้องถิ่น๒) ชุมชนเป็นผู้กำหนดอนาคต และจัดการหมู่บ้านและชุมชนด้วยคุณค่าและภูมิปัญญาของตนเอง๓) เกื้อกูลประโยชน์ต่อผู้ด้อยโอกาสในหมู่บ้านและชุมชน๔) เชื่อมโยงกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างชุมชน ราชการ เอกชนและประชาสังคม๕) กระจายอำนาจให้ท้องถิ่น และพัฒนาประชาธิปไตยพื้นฐาน

วัตถุประสงค์กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง
๑) เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียน สำหรับการลงทุน
• พัฒนาอาชีพ สร้างงาน
• สร้างรายได้ หรือ เพิ่มรายได้
• ลดรายจ่าย
• บรรเทาเหตุฉุกเฉิน และจำเป็นเร่งด่วน
๒) ส่งเสริมและพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้มีขีดความสามารถ
• จัดระบบเงินกองทุน
• บริหารจัดการเงินกองทุน
๓) เสริมสร้างกระบวนการพึ่งพาตัวเองของหมู่บ้านและชุมชนเมือง
• การเรียนรู้
• การสร้างและพัฒนาความคิดริเริ่ม
• เสริมสร้างศักยภาพและส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียง
๔) กระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานราก
• เสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต
๕) เกิดศักยภาพ / ความเข้มแข็งของประชาชนในหมู่บ้าน / ชุมชนเมือง
• เศรษฐกิจ
• สังคม

ศึกษาเพิ่มเติม > http://www.villagefund.or.th/

อ่านต่อ...